![](/images/editor/นายรัชชพันธุ์_โกวิทางกูร.jpg)
JEC หนึ่งในแนวร่วม Green Heroes for Life ที่ริเริ่มโดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ขานรับเทรนด์สีเขียว มุ่งการใช้เทคโนยีดิจิทัลตัวแปรสำคัญสู่การสร้างความยั่งยืนให้กับอาคาร ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงส่งมอบงาน หนึ่งในแนวคิดพิชิตความยั่งยืนให้กับลูกค้า พร้อมถ่ายทอดแนวคิดเพื่อเป็นแนวทางในการช่วยกันสร้างความยั่งยืนให้กับโลก
บริษัท จาร์ดีน เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ JEC ผู้นำด้านการให้บริการและบริหารจัดการโครงการในด้านงานวิศวกรรมระบบประกอบอาคาร ได้แก่ ระบบปรับอากาศ ระบบประปา และระบบไฟฟ้า ให้กับอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า รวมถึงระบบอาคารอัตโนมัติ ฯลฯ และผู้นำด้านการพัฒนาแนวคิดโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนสำหรับอาคารให้กับลูกค้า อย่างครบวงจร ตั้งแต่ซอฟต์แวร์จำลองการวางระบบไปจนถึง การปลดล็อคข้อจำกัดด้านพื้นที่ และเวลาในการติดตั้ง รวมไปถึงเพื่อลดของเสียที่เกิดขึ้นที่โครงการเพื่อความยั่งยืนทั้งตามเป้าหมายของลูกค้า และสำหรับ JEC
เทรนด์ด้านความร่วมมือในการสร้างความยั่งยืนกระพือทั่วโลก หลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกต่างยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าการสร้างความยั่งยืนสามารถสืบสานการใช้ชีวิตที่มั่นคงด้านทรัพยากรให้แก่คนรุ่นถัดไปได้ ดังนั้นพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มของการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับบุคคลมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจทุกภาคส่วนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดย JEC มองว่าทุกองค์กรสามารถสร้างความยั่งยืนได้เพียงปรับวิธีการทำงานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพไปพร้อม ๆ กับการลดการสร้างผลกระทบเชิงลบให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อม
นายรัชชพันธุ์ โกวิทางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จาร์ดีน เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ดูแลธุรกิจในประเทศไทยและเมียนมาเผยว่า ถ้าพูดถึงคำว่าความยั่งยืน คนจำนวนมากคงนึกถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมกันเป็นอันดับแรก แต่ถ้ามองในเชิงลึก คำว่าความยั่งยืนเป็นคำที่ใหญ่กว่า และครอบคลุมมากกว่านั้น หมายรวมถึงธุรกิจต้องดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการคิดหาวิธีการในการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ประหยัดเวลามากขึ้น ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น และที่สำคัญต้องลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
JEC เริ่มต้นก้าวเล็ก ๆ ด้วยความตั้งใจที่อยากจะลดของเสียในสำนักงานใหญ่ โดยการเปลี่ยนขยะเศษอาหารให้เป็นปุ๋ยด้วยเครื่องย่อยเศษอาหาร (Waste composer) รวมถึงการคัดแยกขยะบริโภคทั้งสำนักงานใหญ่ และไซต์ออฟฟิศ ขณะที่เป้าหมายใหญ่ของ JEC ด้านความยั่งยืน คือการพัฒนากระบวนการทำงานภายในของบริษัท ให้สามารถรักษาคุณภาพและมาตรฐานของงาน ไปพร้อม ๆ กับลดการสร้างผลกระทบเชิงลบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงสิ่งแวดล้อม โดยใช้หลักการ ESG ในการพัฒนาความยั่งยืน เริ่มจากการสร้างและพัฒนาผู้คนของ JEC ให้สามารถพัฒนาทั้งด้านความสามารถพร้อมกับการปลูกฝัง Mindset เกี่ยวกับความยั่งยืนให้กับพนักงานทุกคน
นายรัชชพันธุ์ เผยต่อว่า “เรามีการค้นหานวัตกรรมร่วมกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดขั้นตอนการทำงานของทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบระบบงานที่เราติดตั้งโดยใช้เทคโนโลยี Building Information Modeling (BIM) หรือการวางแผนติดตั้งด้วยวิธีการทำ Prefabrication คือการรวมงานหลายระบบที่ต้องติดตั้งให้อยู่ใน shaft เดียวกันจาก workshop ของเราเอง รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพของสิ่งต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนขนย้ายไปติดตั้งในพื้นที่จริง ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในเรื่องของการคำนวณวัสดุ การบริหารจัดการเวลาและควบคุมคุณภาพ”
![](/images/editor/นายมงคล_ตั้งศิริวิช.jpg)
นายมงคล ตั้งศิริวิช ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา เผยว่า “JEC เป็นหนึ่งใน Green Heroes for Life ที่มุ่งปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ รวมถึงแนวคิด เพื่อดำเนินธุรกิจไปสู่เส้นทางในการช่วยกันสร้างความยั่งยืน ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ที่นับว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับทุกธุรกิจในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกระดับ ทุกองค์กรไม่ได้จำกัดเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ จะเป็นองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม หรือสถาบันต่างๆ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดกระแสและการปฏิบัติไปสู่ความยั่งยืนของโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะที่ธุรกิจก็ยังดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย และนี่คือหนทางสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง”
“JEC เปรียบพนักงานเสมือนต้นไม้ ที่แต่ละต้นย่อมเป็นต้นไม้ที่เติบโตมาต่างกัน มีความแข็งแรงต่างกัน ต้องการการบำรุงรักษาที่ต่างกัน สิ่งที่เรามุ่งมั่นที่จะทำคือพัฒนาและรักษาให้ต้นไม้แต่ละต้นอยู่บนพื้นดินที่มีสารอาหารมากเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของเขา ในที่นี้อาจจะหมายถึงสวัสดิการ โอกาสในการพัฒนาความรู้ ทักษะ เครื่องมือ อุปกรณ์ในการทำงาน การสร้าง safe space ให้พวกเขา การ support จากทีมงาน เทคโนโลยี และเครื่องมือที่ช่วยตอบสนองการทำงานของพวกเขา เพราะเราเชื่อมั่นว่าหากต้นไม้ที่สมบูรณ์แล้ว พื้นดินแห่งนั้นก็ย่อมสมบูรณ์และยั่งยืนไปด้วยกัน” นายรัชชพันธุ์ กล่าวทิ้งท้าย