รองนายกฯ สุชาติ เรียกประชุมนัดแรก คกก.อำนวยการฯ เร่งเครื่องแก้ปัญหาหมอกควัน–ฝุ่น PM2.5 ปี 2569

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ ครั้งที่ 1/2569 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยมีนางรวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่รองประธาน ผู้บริหารกระทรวง ทส. และนายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
การประชุมนัดแรกครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอย่างจริงจัง โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดตามนโยบายรัฐบาล และข้อสั่งการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งเดินหน้าป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงในหลายพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน และภาคเศรษฐกิจของประเทศ

ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2569 ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่เกษตรกรรม เขตเมือง และปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยกำหนดมาตรการสำคัญ อาทิ การตั้งจุดเฝ้าระวังไฟป่า การประชาสัมพันธ์เชิงรุกในรูปแบบ “เคาะประตูบ้าน” เพื่อสร้างความเข้าใจกับชุมชนรอบป่า การเฝ้าระวังและป้องปราบการเผา การส่งเสริมเกษตร 3R ในพื้นที่เกษตรกรรม การจัดหาห้องปลอดฝุ่น มุ้งสู้ฝุ่น และหน้ากากอนามัยสำหรับกลุ่มเปราะบาง

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการใช้กลไกท้องถิ่นในการขับเคลื่อนงาน การตัดอ้อยสดส่งโรงงาน การปรับเปลี่ยนการใช้เครื่องยนต์ในรถโดยสารเป็นระบบไฟฟ้า เร่งดำเนินมาตรการห้ามนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มาจากการเผา กระชับความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส” เตรียมความพร้อมกำลังพลและอากาศยานสำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
สำหรับการแก้ไขปัญหาฝุ่นในเขตเมือง ที่ประชุมเห็นชอบการยกระดับมาตรการภายใต้โครงการ Low Emission Zone และ Green List Plus การติดตั้งระบบตรวจวัดการปล่อยมลพิษแบบต่อเนื่อง (CEMS) ในโรงงานที่มีหม้อไอน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตลอดจนให้หน่วยงานที่ขอรับการจัดสรรงบกลาง ปี 2569 ปรับลดงบประมาณในภารกิจที่ไม่เร่งด่วน เพื่อนำมาใช้รองรับสถานการณ์ฝุ่นละอองที่กำลังจะมาถึงอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 14 กลุ่มป่า เพื่ออำนวยการ บูรณาการ และสั่งการการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นเอกภาพ พร้อมทั้งเน้นย้ำการสร้างการรับรู้ การแจ้งเตือน และการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับข้อมูลสถานการณ์และแนวทางการป้องกันผลกระทบจากฝุ่นละอองอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง






