ไทยวาโชว์ผลประกอบการโดดเด่นตลอดปี 65 ทำสถิติรายได้มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เดินหน้าคว้าโอกาสปี 66 ด้วยนวัตกรรมเกษตรและอาหาร พร้อมขยายธุรกิจสู่ตลาด CLMV

 บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) นำโดย นายโฮ เรน ฮวา  (ที่ จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นางอรอนงค์ วิชชุชาญ (ขวาสุด) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน นางสาวหทัยกานต์ กมลศิริสกุล  (ที่ จากซ้าย) ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายกลยุทธ์ ความยั่งยืน นวัตกรรม และนายธนชาต เหล่าศิริพงศ์ (ซ้ายสุด) ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายธุรกิจพิเศษ ร่วมให้ข้อมูลความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจปี 2565 และทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2566 ด้วยนวัตกรรมเกษตรอาหาร และความยั่งยืน เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ

บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ประกาศความสำเร็จในปี 256ด้วยยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2564 จากการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกตลาด ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายที่เติบโตขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยผลประกอบการที่ดีที่สุดมาจากธุรกิจอาหารซึ่งเป็นธุรกิจหลักในประเทศไทยและเวียดนามที่มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง ในปี 2566 บริษัทยังตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องโดยคาดหวังปัจจัยบวกจากการที่จีนเปิดประเทศ ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการบริโภคสินค้าภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน TWPC เป็นผู้นำในตลาดแป้งมันสำปะหลัง ไทยวายังเตรียมเดินหน้าลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเพื่อตอบโจทย์ต้นทุนด้านพลังงานที่สูงขึ้น และในอีก ปีข้างหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายการดำเนินงานในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร แป้งมันสำปะหลัง และธุรกิจพิเศษไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากขึ้น

 

TWPC เป็นบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการดำเนินงานใน ประเทศ โดยมีโรงงานและสำนักงานทั้งหมด 15 แห่ง มีพอร์ทโฟลิโอที่ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้บริโภคและผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและแป้งมันสำปะหลังดัดแปร ซึ่งเป็นวัตถุดิบและโซลูชันด้านอาหารในการประกอบอาหารสำหรับ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการด้านอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกจากแป้งมันสำปะหลังภายใต้แบรนด์ ROSECO  แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม แต่บริษัทยังคงทำผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์การเสริมความแข็งแกร่งในด้านการขายและการตลาดระดับโลก ห่วงโซ่อุปทาน และความสามารถด้านดิจิทัล 

 

 

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การออกแบบและพัฒนาพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและสมดุลสำหรับตลาดโลก เป็นหัวใจสำคัญในกลยุทธ์ของบริษัทนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดในเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรจาก “ฟาร์มสู่ผู้บริโภค” ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่รายในภูมิภาค เราได้ทุ่มเทเวลาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เตรียมความแข็งแกร่งให้พร้อมคว้าโอกาสหลังโควิด โดยเสริมศักยภาพให้กับห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบของบริษัท และพัฒนาความสามารถด้านซัพพลายเชนและทีมขายสำหรับตลาดโลก การเตรียมการเหล่านี้ทำให้ไทยวาพร้อมรับการฟื้นตัวของตลาดหลังโควิด ที่วัตถุดิบและอาหารในราคาที่คุ้มค่าจะมีความต้องการมากขึ้น"

 

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 เรายังคงมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และพร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา ให้กว้างและลงลึกมากขึ้น บริษัทเล็งเห็นแนวโน้มความต้องการบริโภคสินค้าในประเทศจีนที่กลับมาฟื้นตัวจากการเปิดประเทศในปี 2566 รวมถึงความต้องการจากลูกค้าที่มองหาโซลูชันด้านอาหารที่สามารถตรวจสอบแบบย้อนกลับได้ มีความคุ้มค่า และสะดวกต่อผู้บริโภค ทางไทยวาได้ตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับการส่งมอบโซลูชันด้านอาหารให้รวดเร็วและครอบคลุมกว่าเดิม นอกจากนี้กลยุทธ์ของเรายังมุ่งเน้นไปที่การสร้างสมดุลระหว่างกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B ทั้งในประเทศไทย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย และทั่วโลก โดยความต้องการสินค้าในพอร์ทโฟลิโอทั้งหมดของไทยวามีการเติบโตมากยิ่งกว่าในช่วงก่อนโควิด-19  ในปีนี้เราจะเดินหน้าทำงานอย่างรวดเร็วและเต็มที่ โดยพัฒนาสิ่งใหม่ๆ จากกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์ของเรา ตัวอย่างความสำเร็จ เช่น ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นของเราที่ปัจจุบันเป็นสินค้าที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในไทย รวมถึงในภูมิภาคนี้”  

 

สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตจนถึงปี 2568 ไทยวาวางแผนที่จะสร้างการเติบโตทางด้านยอดขายอย่างมากในทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยขยายทั้งฐานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่าย และการทำการตลาด จาก 15 แห่งเป็น 20 แห่ง พร้อมทั้งเดินหน้าเสริมความแข่งแกร่งทางของการดำเนินงานในประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย โดยบริษัทสามารถทำกำไรและรายได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่านับตั้งแต่ปี 2560 รวมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 20 รายการในระหว่างช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ไทยวาสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดอาหาร แป้งมัน วัตถุดิบออร์แกนิค และวัตถุดิบที่คัดสรรมาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืนทั่วโลกได้

 

การทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง หมื่นล้านบาทในปีนี้ นับเป็นความสำเร็จที่สำคัญของไทยวา ในฐานะหนึ่งในบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมอาหารแบบ B2B ชั้นนำของเอเชีย

 

“ธุรกิจเกษตรและอาหารเป็นธุรกิจระดับโลก ความท้าทายเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหารและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้เป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของเราที่จะต้องให้บริการลูกค้าทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและดียิ่งขึ้น โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาก การดำเนินงานขายและการตลาดทั่วโลกของบริษัทเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมาก ปัจจุบันเราให้บริการลูกค้าและแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และยังเป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากพืชล้วนๆ จากฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และในฐานะบริษัทชั้นนำด้านเกษตรและอาหารแบบ B2B ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจะเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง” นายโฮ กล่าวเสริม

 

TWPC ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับรางวัล Steward Leadership 25 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการรับมือความท้าทายด้านสังคมในปัจจุบัน และในปีที่ผ่านมาบริษัทยังคว้ารางวัลองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2565 หรือ HR Asia Best Company to Work for in Asia 2022

 

ยิ่งไปกว่านั้น ไทยวาจะรุกลงทุนในด้านพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 15 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวในการลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ และเป็นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในฐานะองค์กรหลัก ในปี 2565 บริษัทยังได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังครั้งแรกในโลก และเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาพลาสติกที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสินค้าพิเศษที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA products) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่จะมีส่วนสร้างการเติบโตให้กับไทยวาได้อย่างมีนัยสำคัญ 

Visitors: 1,160,292