เอ็น.ซี.ซี. ผนึกรัฐ – เอกชน ยกระดับท่องเที่ยวมูลค่าสูง จัดมหกรรมกอล์ฟ – ดำน้ำ – กีฬากลางแจ้งใหญ่สุดในอาเซียน

เอ็น.ซี.ซี. ผนึกกำลังภาครัฐ และเอกชน จัดงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025 มหกรรมกีฬากอล์ฟ ดำน้ำ กิจกรรมกลางแจ้ง ใหญ่สุดในอาเซียน ระดมผู้ประกอบการกว่า 590 คูหา จำหน่ายสินค้าในราคาสุดพิเศษ คาดจะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 59,000 คน ด้าน ททท. หนุนการท่องเที่ยวด้านกีฬา ยกระดับการท่องเที่ยวสูงพรีเมียม คาดปี 68 ธุรกิจดำน้ำมูลค่าทะลุ 8.5 พันล้านบาท โตเฉลี่ย 12% ต่อปี

 

นายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า เอ็น.ซี.ซี. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรจัดงาน “THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST” ติดต่อกันมาอย่างยาวนานถึง 21 ปี และเห็นถึงเห็นถึงการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีผู้เข้าร่วมชมงาน และผู้ประกอบการมาเข้าร่วมเพิ่มขึ้นทุกปี จนทำให้การท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ ดำน้ำ และกิจกรรมการแจ้ง เป็นหนึ่งในสาขาของการท่องเที่ยวที่รายได้เข้าประเทศได้อย่างมหาศาล และยังส่งผลให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวและเล่นกีฬากลางแจ้งที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับการท่องเที่ยวของไทยไปสู่การท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง หรือการท่องเที่ยวแบบพรีเมียม ตามเป้าหมายของรัฐบาล

 

โดยการจัดงานฯ ในปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 55,000 คน เพิ่มขึ้นกว่า 10% จากปีก่อนหน้า มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ  

 

สำหรับการจัดงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025 หรืองานแสดงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ ปี 2568 ประกอบด้วย  กลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า  590  คูหา  ได้แก่ สนามกอล์ฟ อุปกรณ์กอล์ฟ สถาบันสอนดำน้ำ อุปกรณ์ดำน้ำ บริษัทนำเที่ยว เรือนำเที่ยว อุปกรณ์เดินป่า ที่พัก อุปกรณ์ถ่ายภาพ ฯลฯ พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ การเสวนาด้านการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ทะเลไทย เทคนิคการถ่ายภาพใต้น้ำ และกิจกรรม “TDEX You Give.. We Share” ครั้งที่ 4 เชิญชวนบริจาคชุดดำน้ำและอุปกรณ์ดำน้ำมือสองสภาพดี เพื่อมอบให้มูลนิธิหรือหน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ในสาธารณะประโยชน์ เป็นต้น โดยการจัดงานฯ ในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานเพิ่มขึ้น 10% และมีมูลค่าซื้อขายเกิดขึ้นภายในงานและต่อเนื่องไปในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 200 ล้านบาท

นอกจากนี้กิจกรรมที่ได้รับความสนใจ คือ การประกวดภาพถ่ายใต้น้ำ "18th TDEX Underwater Photo Contest" ในปีนี้ได้เปิดโอกาสให้ช่างภาพใต้น้ำทั้งมือเก่า มือใหม่ และมืออาชีพ ได้ส่งผลงานเข้าร่วม โดยมีผู้ส่งภาพเข้าประกวดสูงถึง 164 คน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. ประเภท Animal Portrait : 386 ภาพ  2. ประเภท Animal in their Environment : 312 ภาพ  และ3. ประเภท Human & Underwater Nature : 191 ภาพ รวมทั้งสิ้น 889 ภาพ

รวมทั้งยังได้จัดประกวดคลิปวิดีโอใต้น้ำ "TDEX Underwater Moment Video Contest" ครั้งที่ 2 มีผลงานรวมทั้งหมด 117 คลิป  โดยผลงานทั้งหมดจะถูกคัดเลือกและตัดสินจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการถ่ายภาพชั้นนำของเมืองไทย  เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเลิศที่เหมาะสมที่สุดรวมทั้งรางวัลอื่น ๆ ที่มีมูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท โดยจะประกาศผลงานในวันที่ 22 พ.ค. 2568 นี้ ซึ่งผลงานที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจะนำมาจัดแสดงในช่วงวันแสดงงาน

ในส่วนของงานแสดงสินค้าครั้งนี้เรามีการจัด Business Matching โดยเชิญกลุ่มผู้ซื้อจากประเทศเวียดนาม และมาเลเซียมาพบกับผู้ประกอบการไทยด้วย ซึ่งในปีนี้มีผู้ประกอบการชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศมากมายขนสินค้า และบริการที่มีคุณภาพมาจัดโปรโมชั่นในราคาพิเศษโดยมีผู้ประกอบการชั้นนำ เช่น บริษัท Dynamicnord แบรนด์อุปกรณ์ดำน้ำน้องใหม่จากเยอรมนี จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ดำน้ำหลากหลายประเภทอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับดำน้ำลึกและฟรีไดฟ์ ที่ทีมวิจัยและพัฒนาของเยอรมนี ออกแบบโดยอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการและความปรารถนาของนักดำน้ำ ภายใต้แนวคิด: "นวัตกรรม - ความน่าเชื่อถือ - การใช้งานได้จริง" นอกจากนี้ยังมีแบรนด์อุปกรณ์ดำน้ำชั้นนำอีกมากมายมาจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษภายในงาน


          นายขจรฤทธิ์ ขวัญมงคล ผู้อำนวยการกองตลาดภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มดำน้ำเติบโตในระดับสูงทั้งในแง่ของรายได้และจำนวน โดยมีผู้สนใจดำน้ำเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งในปี
2568 คาดว่าประเทศไทยจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวดำน้ำมากกว่า 8,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึงเกือบ 2,000 ล้านบาท ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่สูงถึง 12% ต่อปี

สำหรับปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ตลาดดำน้ำไทยขยายตัว ได้แก่ การขยายตัวของชนชั้นกลางที่กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ ที่มีอายุในช่วง 20–40 ปี เข้าสู่วงการผจญภัยทางทะเล จนกลายเป็นกลุ่มหลักกว่า 70% ของนักดำน้ำทั่วโลก และไทยยังมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดำน้ำที่เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ฝึก PADI/SSI เรือ Liveaboard คุณภาพสูง และระบบจองออนไลน์ที่ทันสมัยที่ช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงกิจกรรมนี้

โดยประเทศไทยมีแหล่งดำน้ำยอดนิยมระดับโลกหลายแห่งที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคใต้ ทั้งแหล่งดำน้ำในฝั่งอันดามัน อาทิ หมู่เกาะสิมิลัน เกาะพีพี รวมถึงฝั่งอ่าวไทย อย่างเกาะเต่า และหมู่เกาะชุมพร ก็ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญที่รองรับการดำน้ำในรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่ดำน้ำตื้นตามแนวปะการัง ไปจนถึงการดำน้ำลึกไปชมซากเรือ และการดำน้ำแบบ Freediving อย่างเกาะเต่านับเป็นแหล่งเรียนดำน้ำที่ได้รับความนิยม และมีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก

ในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภคมีข้อมูลว่า การใช้จ่ายเฉลี่ยของนักดำน้ำอยู่ที่ราว 4,300 บาทต่อวัน โดยแต่ละทริปใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 2.5 วัน ได้แก่ ไดฟ์บอร์ด การดำน้ำแบบเทคนิค และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งสะท้อนความต้องการที่ลึกซึ้งและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไทยเองมีโอกาสต่อยอดตลาดเหล่านี้ ด้วย หลักสูตรดำน้ำเชิงลึก และกิจกรรม ดำน้ำฟื้นฟูปะการังเป็นต้น

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ความสนใจกับกลุ่มสินค้าและบริการท่องเที่ยว Premium มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดของกิจกรรมดำน้ำและกอล์ฟ  บทบาทของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในงานนี้คือการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้านการประชาสัมพันธ์  สร้างการรับรู้การท่องเที่ยวในรูปแบบไลฟ์สไตล์ไปยังนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศโดย ททท. ได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST มาอย่างต่อเนื่อง งานดังกล่าวจะเป็นจุดเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการในด้านกีฬากอล์ฟ การดำน้ำ และการท่องเที่ยวกลางแจ้ง ได้มาพบบปะกับผู้ที่สนใจ ตลอดจนเป็นการแสดงถึงความพร้อมและศักยภาพของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวด้านกีฬากอล์ฟ ดำน้ำ และกิจกรรมกลางแจ้งของประเทศไทย

ภายในงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025  นอกเหนือไปแพ็กเกจการท่องเที่ยวที่น่าสนใจราคาพิเศษแล้ว ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยโดยภูมิภาคภาคใต้ ยังร่วมกับสำนักงานในพื้นที่ 4 สำนักงาน คือ สำนักงานชุมพร สำนักงานเกาะสมุย สำนักงานกระบี่ และสำนักงานพังงา ได้นำตัวแทนสมาคมชมรมในพื้นที่มาร่วมออกบูธนำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ ทั้งกอล์ฟ ดำน้ำ กิจกรรมกลางแจ้ง สำหรับผู้เข้าชมงานที่อยากทราบข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดย ททท. คาดหมายว่าในงานนี้จะมีผู้ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวจากผู้ที่เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นแพ็กเกจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับการท่องเที่ยว และส่งเสริมการท่องเที่ยวพรีเมียม ให้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ

 

นางสาวณิชาภา อุรุวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญพัฒนา SME สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) กล่าวว่า ในขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในธุรกิจท่องเที่ยวกว่า  471,706 ราย มีมูลค่าธุรกิจรวมประมาณ 835,832 ล้านบาท และยังมีธุรกิจผลิตสินค้า และบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอีกกว่า 10,000 ราย ดังนั้น หากภาครัฐ และเอกชนร่วมกันผลักดันเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจท่องเที่ยว ก็จะช่วยยกระดับรายได้ให้กับประเทศไทยได้อีกมหาศาล และยังเป็นส่วนสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจของไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตสงครามการค้าในปีนี้ไปได้

 

ทั้งนี้ เพื่อผลักดันธุรกิจการท่องเที่ยวให้มีรายได้เพิ่มสูงขึ้น ISMED จึงได้ออกมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่ดำเนินธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ การจัดหลักสูตรอบรมและฝึกปฏิบัติ หัวข้อการลงทุนในธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท รุ่นที่ 18  ที่เน้นการอบรมและฝึกปฏิบัติการบริหารจัดการในด้านต่างๆเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ อาทิ ด้านการตลาด  ด้านการเงิน ทั้งนี้ ISMED ยังได้จัดให้มีการศึกษาดูงานการดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่ประสบผลสำเร็จทั้งในประเทศและต่างประเทศ  นอกจากการอบรมดังกล่าว ISMED ยังจัดให้มีการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก (Consulting) ในการจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operation Procedure : SOP) เพื่อบริการที่เหนือชั้น สำหรับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ทั้งแผนกการให้บริการส่วนหน้าและแผนกส่วนครัว รวมถึงมีการให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อการขอรับรองมาตรฐานฮาลาลในส่วนครัวหรือร้านอาหารในโรงแรมอีกด้วย

 

รวมทั้งยังได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025 โดยได้นำงาน Thailand Golf และ Outdoor Fest ลงทะเบียนเพื่อเข้าพิจารณาอนุมัติงบประมาณอุดหนุน ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. หากผู้ประกอบการ SME ท่านใด สนใจเข้าร่วมงาน Thailand Golf และ Outdoor Fest ก็จะได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดถึง 80%  ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ SMEs ได้เป็นจำนวนมาก

 

          มหกรรมแสดงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ “THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025”  จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 25 พฤษภาคม 2568 เวลา  11.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5-6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ผู้สนใจเข้าชมงานสามารถลงทะเบียนชมงานล่วงหน้า และติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมดำน้ำได้ทาง Facebook: Thailand Dive Expo (TDEX)  หรือ www.ThailandDiveExpo.com  กิจกรรมกีฬากอล์ฟ ติดตามดูรายละเอียดได้ทาง Facebook: Thailand Golf Expo หรือ www.ThailandGolfExpo.com  กิจกรรมท่องเที่ยวกลางแจ้ง Outdoor Fest ติดตามดูรายละเอียดได้ทาง Facebook: Traveler & Outdoor Expo หรือ www.traveloutdoorexpo.com

Visitors: 3,025,492